วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2558
30.12.2558 ประชาสังคม (Civil Society)
1.ประชาสังคม จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ประชาสังคม หรือ Civil Society เป็นแนวคิดที่มีเป้าหมายเพื่อการมีสังคมและชุมชนที่เข้มแข็ง ด้วยเป็นแนวคิดที่กว้าง จึงมีผู้ให้คำนิยามไว้หลากหลาย โดยทั่วไปประชาสังคม หมายถึง พื้นที่หรือส่วนของสังคมที่มีประชาชนเป็นผู้แสดงบทบาทหลัก พื้นที่ดังกล่าวจึงไม่ใช่ภาครัฐ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยมีกฎหมายรองรับ และภาคธุรกิจเอกชนที่เน้นดำเนินงานโดยมุ่งแสวงหาผลกำไรในพื้นที่ประชาสังคม ประชาชนทั่วไปเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการดำเนินการที่เป็นอิสระจากภาครัฐ และอยู่นอกบริบทการแข่งขันทางการเมือง ซึ่งกลุ่มและผู้กระทำการทางสังคม อาจมีวัฒนธรรม วิถีชีวิต วิธีคิดอันหลากหลายมาร่วมกันในกิจกรรมที่มีเป้าหมายเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูล ถกเถียงแลกเปลี่ยนความคิด สร้างเอกลักษณ์และความเห็นร่วมกัน รวมถึงต้องมีจุดมุ่งหมายร่วมในการพิทักษ์หรือเพิ่มพูนผลประโยชน์สาธารณะบางประการให้กับสังคม โดยลักษณะของพื้นที่ดังกล่าวสามารถเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับพื้นที่ทางการเมือง และทางเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจระหว่างสามพื้นที่ดังกล่าวนี้ด้วย.
2.อรรถาธิบาย
คำว่าประชาสังคมมีพัฒนาการทางประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานในฐานะที่เป็นพื้นที่ทางสังคมซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับภาครัฐ กล่าวได้ว่าประชาสังคมในช่วงศตวรรษที่ 17-18 หมายถึง พื้นที่อิสระที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวอย่างสมัครใจของคนที่มีความเชื่อร่วมกันในคุณค่าบางประการ มีวิถีชีวิตในการปฏิบัติการร่วมกัน และต้องมีองค์การที่จัดให้มีการแสดงความคิดเห็นสาธารณะ หรือกล่าวได้ว่าประชาสังคมคือพื้นที่ในการประกอบกิจกรรมของปัจเจกชนที่เป็นอิสระจากรัฐ ประชาสังคมในช่วงศตวรรษที่ 17-18 ได้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนในระบบทุนนิยม
อย่างไรก็ดี ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ได้เกิดการตั้งคำถามกับคำว่าประชาสังคมว่า ควรรวมถึงภาคเอกชนหรือไม่ เพราะภาคเอกชนมีเป้าหมายอยู่ที่ผลประโยชน์ส่วนตัว (self-interest) จนทำให้เกิดการทบทวนนิยามคำว่าประชาสังคม ให้แยกออกจากภาคเอกชน ในฐานะที่เป็นพื้นที่อิสระ ที่ไม่ใช่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน แต่เป็นพื้นที่ใหม่เรียกว่าภาคประชาสังคม ซึ่งเกิดมาจากการรวมตัวอย่างอิสระเพื่อวัตถุประสงค์ในการกระทำกิจกรรมบางอย่างร่วมกันในการบรรลุผลประโยชน์สาธารณะ ซึ่งอาศัยความคิดของนักปรัชญาชาวสก๊อตในศตวรรษที่ 18 อย่างอดัม เฟอร์กูสัน (Adam Ferguson) ที่ได้กล่าวว่า ประชาสังคมเป็นพื้นที่สาธารณะของปัจเจกบุคคล ที่โดยธรรมชาติแล้วเป็นผู้ที่มีจริยธรรมและมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ถึงผู้อื่นเสมอ ประชาสังคมจึงมีเป้าหมายเพื่อผลประโยชน์สาธารณะมากกว่าผลประโยชน์ของปัจเจกบุคคลที่ได้มาจากพื้นที่ทางเศรษฐกิจและกลไกตลาด (Hann and Dunn, 1996: 4)
ความหมายของแนวคิดประชาสังคมในปัจจุบันที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด คือนิยามของนักรัฐศาสตร์ร่วมสมัยอย่าง แลร์รี่ ไดมอนด์ (Diamond, 1996: 228) ซึ่งได้อธิบายแนวคิดประชาสังคมว่า คืออาณาบริเวณ (realm) ที่มีการจัดตั้งขึ้นของชีวิตทางสังคมที่มีลักษณะเป็นอาสาสมัคร มีการเติบโตอย่างเป็นอิสระจากรัฐ และอยู่ภายใต้กติการ่วมกันของสังคม คำว่าประชาสังคมจึงแตกต่างจากคำว่า “สังคม” (society) เพราะเป็นพื้นที่ของพลเมืองที่จะร่วมกันกระทำการบางอย่างในพื้นที่สาธารณะ (public sphere) โดยมีประชาสังคมเป็นพื้นที่ตรงกลาง (intermediary entity) ระหว่างพื้นที่ของเอกชนและภาครัฐ ทั้งนี้รวมถึงเป็นพื้นที่เชื่อมระหว่างประชาชนกับภาคธุรกิจเอกชนและภาครัฐ ด้วยเหตุนี้ประชาสังคมจึงไม่ได้เป็นเพียงความพยายามในการจำกัดอำนาจรัฐ แต่อาจเป็นพื้นที่สำหรับให้ความชอบธรรมแก่รัฐก็ได้ หากภาครัฐนั้นได้กระทำการอยู่บนพื้นฐานของหลักนิติธรรม และเป็นที่ยอมรับของสังคมโดยรวม
ถึงกระนั้นแล้ว คำว่าประชาสังคมยังคงเป็นคำศัพท์ทางการเมืองที่มีความสับสนในการนิยามและนำไปใช้อย่างมาก การนำคำว่าประชาสังคมไปใช้ในสังคมตะวันตกจึงจำเป็นต้องผูกโยงกับคำศัพท์อื่นที่เข้าใจง่ายกว่า เช่น กระบวนการทำให้เป็นประชาธิปไตย (democratization) โลกาภิวัตน์ (globalization) การเป็นอาสาสมัคร (volunteering) ความเป็นพลเมือง (citizenship) และผลประโยชน์สาธารณะ (public interest) เป็นต้น
3.ตัวอย่างการนำไปใช้ในประเทศไทย
การนิยามประชาสังคมในประเทศไทย งานของ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ได้ให้ความหมายของประชาสังคมไว้ว่าคือ เครือข่าย กลุ่ม ชมรม สมาคม มูลนิธิ สถาบัน และชุมชนที่มีกิจกรรมหรือมีการเคลื่อนไหวอยู่ระหว่างรัฐและเอกชน โดยมีจุดเน้นอยู่ที่ไม่ชอบและไม่ยอมให้รัฐครอบงำหรือบงการ แม้ว่าจะยอมรับความช่วยเหลือจากรัฐและความร่วมมือกับรัฐได้ แต่ก็สามารถชี้นำกำกับและคัดค้านรัฐได้พอสมควร และไม่ชอบลัทธิปัจเจกชนนิยมสุดขั้ว ซึ่งส่งเสริมให้คนเห็นแก่ตัว ต่างคนต่างอยู่ แก่งแย่งแข่งขันกันจนไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม หากแต่สนับสนุนให้ปัจเจกชนรวมกลุ่มรวมหมู่ และมีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม โดยไม่ปฏิเสธการแสวงหาหรือปกป้องผลประโยชน์เฉพาะส่วนเฉพาะกลุ่ม[6] และงานของ ชลธิศ ธีระฐิติ เห็นว่าประชาสังคมเป็นมโนทัศน์ทางยุทธศาสตร์ (strategic concept) ที่มีความหมายหลากหลายจนไม่สามารถกล่าวว่านิยามใดถูกต้องทั้งหมด เพราะความหมายของคำว่าประชาสังคมขึ้นอยู่กับองค์ประกอบต่างๆ ในทางยุทธศาสตร์ของผู้ที่นำคำว่าประชาสังคมไปใช้ ว่ามีวัตถุประสงค์ในด้านใดเป็นสำคัญ เช่น หากบุคคลหนึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองในการต่อสู้กับภาครัฐ ประชาสังคมจึงอาจหมายถึงพื้นที่ในการเพิ่มอำนาจให้กับประชาชน หรือหากอีกบุคคลหนึ่งเคยทำงานเพื่อสังคมโดยอาศัยการสนับสนุนบางอย่างจากกลไกรัฐ ประชาสังคมของบุคคลที่สองจึงอาจเชื่อมโยงหรือมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับรัฐมากกว่าบุคคลแรก
ประเด็นที่น่าจับตามองคือ การนำคำว่าประชาสังคมไปใช้ในสังคมไทยนั้น ยังมีความสับสนอยู่มากในการแยกแยะระหว่างคำว่าประชาสังคม และองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) กล่าวคือ สองคำนี้ถูกใช้เสมือนมีความหมายเดียวกัน และหลายครั้งใช้ทับซ้อนกันไปมาระหว่างประชาสังคมที่เป็น “พื้นที่สาธารณะ” และประชาสังคมที่เป็น “ตัวแสดง” ขององค์กรพัฒนาเอกชน อีกทั้งยังมีความเข้าใจผิดที่ว่าประชาสังคมจะเกิดขึ้นในชนบทเท่านั้น เพราะไม่เชื่อว่าชุมชนเมืองจะสามารถเกิดการรวมตัวกันเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมได้ หรือกล่าวได้ว่ามีความพยายามที่จะนำคำว่าประชาสังคมไปใช้ร่วมกับคำว่าชุมชนท้องถิ่นนิยม (communitarianism) ทั้งที่ในนิยามสากล ประชาสังคมเป็นพื้นที่ที่สามารถเกิดขึ้นได้ไม่ว่าในเมืองหรือในชนบท
ดังนั้น สังคมไทยจึงควรกลับมาพิจารณาคำว่า “ประชาสังคม” ในความหมายของ “พื้นที่สาธารณะ” ที่อยู่ตรงกลางระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน หรือจะกล่าวโดยเปรียบเทียบได้ว่าประชาสังคมเป็น “สนาม” ในการเข้ามาทำกิจกรรมบางอย่างร่วมกันอย่างอิสระและมีจุดมุ่งหมายอยู่ที่ผลประโยชน์ส่วนรวม ซึ่ง “ผู้เล่น” ที่จะเข้าไปใช้สนามดังกล่าวนั้นจึงถือว่าเป็น “ตัวแสดง” (actor) ในการเข้าไปมีอิทธิพลหรือเข้าไปมีส่วนร่วมระหว่างพื้นที่ทางสังคมและพื้นที่ทางการเมือง
แนวคิดเรื่องประชาสังคมสามารถแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ประกอบด้วย ภาคส่วนที่สาม (third sector) องค์กรนอกภาครัฐ (NGO) กลุ่มทางสังคม (social group) ขบวนการทางสังคม (social movement) และเครือข่ายสังคม (social network) แต่ละส่วนมีบทบาทและทำหน้าที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ดี ต้องคำนึงถึงสภาพความเป็นจริงที่การขับเคลื่อนใน “ประชาสังคม” มีลักษณะที่ทับซ้อนระหว่างบทบาทของแต่ละส่วน และอาจมีลักษณะร่วมกันจนไม่สามารถจำแนกออกเป็น 5 ส่วนได้อย่างชัดเจน เช่น NGO/NPO อาจถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการทางสังคม ดังนั้น การจำแนกดังกล่าวจึงมีไว้เพื่อช่วยทำความเข้าใจรายละเอียดของประชาสังคม แต่ไม่มุ่งหวังที่จะสร้างกรอบการมองประชาสังคมที่แยกส่วนแบบไม่มีปฏิสัมพันธ์ต่อกันระหว่างส่วนต่างๆ
วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558
30.12.2558 นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตั้งใจแวะมาเยี่ยมร้านกาแฟ ของภรรยาหมวดเอ ที่เตะระเบิดช่วงชุมนุม
(อดีตนายกรัฐมนตรี) ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตั้งใจแวะมาเยี่ยมร้านกาแฟ ของภรรยาหมวดเอ ที่เตะระเบิดช่วงชุมนุม ซึ่งตอนนี้แข็งแรงดีขึ้นค่ะ แต่ยังต้องใช้เวลาในการทำกายภาพให้กล้ามเนื้อขากลับมาแข็งแรงดังเดิม ร้านขายกาแฟสด-เครปเย็น-วาฟเฟิลอยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยบูรพา ชลบุรี ใครผ่านก็อย่าลืมแวะมาอุดหนุน และเป็นกำลังให้หมวดเอนะคะ
ขอบคุณ ภาพและข่าว จาก fb:Yingluck Shinawatra
30.12.2558
28.12.2558 การประกวดนางแบบและแอร์โฮสเตสระดับมืออาชีพ ได้ถูกจัดขึ้นในชิงเต่า เมืองท่องเที่ยวในภาคตะวันออกของประเทศจีน
หนูอยากเป็นแอร์! หนูอยากเป็นนางแบบ!
วันจันทร์ ที่ 28 เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2558
การประกวดนางแบบและแอร์โฮสเตสระดับมืออาชีพ ได้ถูกจัดขึ้นในชิงเต่า เมืองท่องเที่ยวในภาคตะวันออกของประเทศจีน ซึ่งมีบรรดาผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจากทั่วประเทศมาเข้าร่วมกว่า 1,000 คน มาร่วมติดตามการประกวดครั้งนี้ และชื่นชมความงามของบรรดาสาวสวยชาวจีนไปด้วยกัน!
ขอบคุณ ภาพและข่าว จาก fb:China Xinhua News
1.
การประกวดนางแบบและแอร์โฮสเตสระดับมืออาชีพ ได้ถูกจัดขึ้นในชิงเต่า เมืองท่องเที่ยวในภาคตะวันออกของประเทศจีน ซึ่งมีบรรดาผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจากทั่วประเทศมาเข้าร่วมกว่า 1,000 คน
2.
การประกวดนางแบบและแอร์โฮสเตสระดับมืออาชีพ ได้ถูกจัดขึ้นในชิงเต่า เมืองท่องเที่ยวในภาคตะวันออกของประเทศจีน ซึ่งมีบรรดาผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจากทั่วประเทศมาเข้าร่วมกว่า 1,000 คน
3.
การประกวดนางแบบและแอร์โฮสเตสระดับมืออาชีพ ได้ถูกจัดขึ้นในชิงเต่า เมืองท่องเที่ยวในภาคตะวันออกของประเทศจีน ซึ่งมีบรรดาผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจากทั่วประเทศมาเข้าร่วมกว่า 1,000 คน
4.การประกวดนางแบบและแอร์โฮสเตสระดับมืออาชีพ ได้ถูกจัดขึ้นในชิงเต่า เมืองท่องเที่ยวในภาคตะวันออกของประเทศจีน ซึ่งมีบรรดาผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจากทั่วประเทศมาเข้าร่วมกว่า 1,000 คน
5.การประกวดนางแบบและแอร์โฮสเตสระดับมืออาชีพ ได้ถูกจัดขึ้นในชิงเต่า เมืองท่องเที่ยวในภาคตะวันออกของประเทศจีน ซึ่งมีบรรดาผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจากทั่วประเทศมาเข้าร่วมกว่า 1,000 คน
6.การประกวดนางแบบและแอร์โฮสเตสระดับมืออาชีพ ได้ถูกจัดขึ้นในชิงเต่า เมืองท่องเที่ยวในภาคตะวันออกของประเทศจีน ซึ่งมีบรรดาผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจากทั่วประเทศมาเข้าร่วมกว่า 1,000 คน
7.การประกวดนางแบบและแอร์โฮสเตสระดับมืออาชีพ ได้ถูกจัดขึ้นในชิงเต่า เมืองท่องเที่ยวในภาคตะวันออกของประเทศจีน ซึ่งมีบรรดาผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจากทั่วประเทศมาเข้าร่วมกว่า 1,000 คน
8.การประกวดนางแบบและแอร์โฮสเตสระดับมืออาชีพ ได้ถูกจัดขึ้นในชิงเต่า เมืองท่องเที่ยวในภาคตะวันออกของประเทศจีน ซึ่งมีบรรดาผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจากทั่วประเทศมาเข้าร่วมกว่า 1,000 คน
9.การประกวดนางแบบและแอร์โฮสเตสระดับมืออาชีพ ได้ถูกจัดขึ้นในชิงเต่า เมืองท่องเที่ยวในภาคตะวันออกของประเทศจีน ซึ่งมีบรรดาผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายจากทั่วประเทศมาเข้าร่วมกว่า 1,000 คน
28.12.2558 องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จัดประชุมคณะปฎิรูปการศึกษาเชียงใหม่ (ภาคีเชียงใหม่เพื่อการปฏิรูปการศึกษา) ครั้งที่ 4 ณ โรงแรมเชียงใหม่ออคิด อำเภอเมืองเชียงใหม่.
วันที่ 28 ธันวาคม 2558 เวลา 09.30 น. นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวสนับสนุนการปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ในการประชุมคณะปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ (ภาคีเชียงใหม่เพื่อการปฏิรูปการศึกษา) ครั้งที่ 4 ทั้งนี้เพื่อแจ้งรายงานการประชุมครั้งที่ 3/25585 เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2558 ,ประกาศใช้แผนยุทธศาสตร์การปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ระยะ 4 ปี (พ.ศ.2559-2562) แจ้งกำหนดการจัดงานปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7 – 8 มกราคม 2559 พร้อมทั้งเสนอเรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ ระยะ 4 ปี
ขอบคุณ ภาพและข่าว จาก fb:ประชาสัมพันธ์ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เชียงใหม่
1.นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวสนับสนุนการปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ในการประชุมคณะปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ (ภาคีเชียงใหม่เพื่อการปฏิรูปการศึกษา) ครั้งที่ 4
2.นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวสนับสนุนการปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ในการประชุมคณะปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ (ภาคีเชียงใหม่เพื่อการปฏิรูปการศึกษา) ครั้งที่ 4
3.นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวสนับสนุนการปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ในการประชุมคณะปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ (ภาคีเชียงใหม่เพื่อการปฏิรูปการศึกษา) ครั้งที่ 4
4.นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวสนับสนุนการปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ในการประชุมคณะปฏิรูปการศึกษาเชียงใหม่ (ภาคีเชียงใหม่เพื่อการปฏิรูปการศึกษา) ครั้งที่ 4
วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2558
27.12.2558 ฯพณฯ (พลเอก) อู วิน หม่อง เอกอัครราชทูตเมียนมาร์ ประจำประเทศไทย เป็นตัวแทนประธานาธิบดีเมียนมาร์ ถวายสมณศักดิ์แห่งประเทศเมียนมาร์ ที่ อัคคมหาบัณฑิต แด่เจ้าพระคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช
วันอาทิตย์ที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๔.๐๐ น.
ฯพณฯ (พลเอก) อู วิน หม่อง เอกอัครราชทูตเมียนมาร์ ประจำประเทศไทย เป็นตัวแทนประธานาธิบดีเมียนมาร์ ถวายสมณศักดิ์แห่งประเทศเมียนมาร์ ที่ อัคคมหาบัณฑิต แด่เจ้าพระคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ณ พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญกรุงเทพมหานคร
ขอบคุณ ภาพและข่าว จาก fb:Watpaknam.bkk
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)