วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

27.10.2558 คุณ.ปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ คุณ.มลสุดา ชำนิประศาสน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ @กิจกรรม “รถด่วนขบวนพิเศษ” นัดสุดท้ายในฤดูกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2558

คุณ.ปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ คุณ.มลสุดา ชำนิประศาสน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเชียงใหม่ @กิจกรรม “รถด่วนขบวนพิเศษ” นัดสุดท้ายในฤดูกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2558 โดยมีพระเทพปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระราชสิงหวรมุนี เจ้าคณะอำเภอเมือง พระครูปริยัตยานุศาสน์ รองเจ้าคณะอำเภอเมืองร่วมพิธี และพระครูธีรสุตพจน์ (พระมหาสง่า ธีรสํวโร) เจ้าอาวาสวัดผาลาด รก.ผอ.สนง.วิทยาเขตเชียงใหม่ เป็นองค์เทศน์ ค่ำวันอังคาร ที่ 27 เดือน ตุลาคม พ.ศ.2558 ณ.พุทธสถานเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่.
1.พระเทพปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระราชสิงหวรมุนี เจ้าคณะอำเภอเมือง พระครูปริยัตยานุศาสน์ รองเจ้าคณะอำเภอเมืองร่วมพิธี และพระครูธีรสุตพจน์ (พระมหาสง่า ธีรสํวโร) เจ้าอาวาสวัดผาลาด รก.ผอ.สนง.วิทยาเขตเชียงใหม่ เป็นองค์เทศน์
2.สรุปกิจกรรมรถด่วนขบวนพิเศษ ปี 2558 ณ พุทธสถาน เชียงใหม่ ผู้ว่าฯปวิณ มอบโล่รางวัลรายการฟังเทศน์เข้าพรรษา พระมหาสง่า “คนจีนอิจฉาไทยเพราะไหว้พระโพธิสัตว์ที่มีชีวิตจริง” ผู้สื่อข่าว(ก็)ได้รางวัลร่วมทำความดีตลอดพรรษา... ค่ำวันที่ 27 ตุลาคม 2558 ที่พุทธสถานเชียงใหม่ คณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ พุทธสมาคมจังหวัด ยุวพุทธิกสมาคมจังหวัด กลุ่มหนุ่มสาวจังหวัดเชียงใหม่ และพุทธศาสนิกชนประมาณ 2,000 คนร่วมกิจกรรม “รถด่วนขบวนพิเศษ” นัดสุดท้ายในฤดูกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2558 มีพระเทพปริยัติ เจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พระราชสิงหวรมุนี เจ้าคณะอำเภอเมือง พระครูปริยัตยานุศาสน์ รองเจ้าคณะอำเภอเมืองร่วมพิธี และพระครูธีรสุตพจน์ (พระมหาสง่า ธีรสํวโร) เจ้าอาวาสวัดผาลาด รก.ผอ.สนง.วิทยาเขตเชียงใหม่ เป็นองค์เทศน์ ด้านฆราวาส นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่เป็นประธาน และผู้มีเกียรติร่วมกิจกรรม อาทิ นางมลสุดา ชำนิประศาสน์ นายกเหล่ากาชาดฯ นายสวัสดิ์-นางดลจิต ศรีสุวรรณดี อดีต ผวจ.ตาก นางพรรณี บุญประเสริฐ นายกพุทธสมาคม นายนิตย์ ขันธสีมา นายกยุวพุทธิกสมาคม นายเชษฐา หิมอนุกุล ที่ปรึกษากลุ่มหนุ่มสาว นายเสาร์แก้ว พายุ ประธานกลุ่มหนุ่มสาว เป็นต้น ก่อนเข้าสู่รายการฟังเทศน์ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ กล่าวเปิดงาน แสดงความชื่นชมยินดีที่มีการจัดรายการรถด่วนขบวนพิเศษมายาวนานถึง 46 ปี ส่งผลให้ชาวเชียงใหม่เป็นคนมีน้ำใจงามวัฒนธรรมประเพณีดี ตนและภริยาได้มาร่วมกิจกรรมนี้สองครั้งแล้วประทับใจมาก จากนั้นได้มีพิธีมอบโล่รางวัล-เงินสด และรถจักรยาน แก่กลุ่มหนุ่มสาวที่ชนะเลิศการตอบปัญหาธรรมะตลอด 12 นัดที่ผ่านมา กับมอบเกียรติบัตรให้แก่กลุ่มที่เข้าร่วมกิจกรรมมาก และพร้อมเพรียง รวมทั้งมอบรางวัลภาพเสาอินทขีลแก่นายบุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์ ผู้สื่อข่าวและคอลัมนิสต์ “ไทยนิวส์” ในฐานะสื่อที่นุ่งขาวถือศีลกินเจ ติดตามรายงานข่าวเทศน์สัญจรคลอดฤดูกาลพรรษานี้ด้วย สำหรับการเทศนาธรรมนัดสุดท้าย พระครูธีรสุตพจน์ ผอ.สำนักงานวิทยาเขต มจร.วิทยาเขตเชียงใหม่ขึ้นเทศน์ว่าด้วย “กาเลนะ ธัมมัสสวนะ กถา” ปรารภเบื้องต้นถึงการตั้งชื่อรายการรถด่วนขบวนพิเศษว่า มาจากอดีตของเมืองเชียงใหม่เมื่อกว่า 46 ปีก่อน วัยรุ่นหนุ่มสาวมักทะเลาะวิวาท ชกต่อยตีรันฟันแทงกันเป็นประจำ พระศรีธรรมนิเทศ(พระมหากมล โชติมนฺโต) เจ้าอาวาสวัดสันป่าข่อยเห็นว่าต้องดึงคนเข้ามาสู่วัด ฟังเทศน์ในพรรษา แต่พอไปฟังเทศน์ก็ยังมีเหตุวิวาทกันอีก จึงปรึกษากับ ผวจ.และผู้กำกับการตำรวจสมัยนั้น วางแผนใช้เกลือจิ้มเกลือ นักเลงคุมนักเลง หากมีเทศน์วัดใดกลุ่มหนุ่มสาววัดนั้นจะต้องดูแลไม่ให้มีเหตุวิวาทกัน ให้คุ้มครองหมู่บ้านของตนอย่างดี จนกระทั่งกลายมาเป็นพลังสามัคคีกลุ่มหนุ่มสาวพลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพฟังเทศน์ ส่วนชื่อรถด่วนขบวนพิเศษ เนื่องจากสมัยนั้นเพลงรถด่วนขบวนสุดท้าย ของ ผ่องศรี วรนุช กำลังดัง จึงนำชื่อมาปรับใช้เป็นชื่อกิจกรรม และทำให้เกิดความร่วมมืออย่างพร้อมเพรียงถึงวันนี้ดังที่เห็น ดังนั้น การที่คณะสงฆ์อันมีเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าสมเด็จพระสังฆราช และรัฐบาลมีโครงการขับเคลื่อนหมู่บ้านรักษาศีล 5 จึงเชื่อว่าชาวเชียงใหม่ทำได้และยิ่งมี ผวจ.อย่างนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ก็จะเห็นผลได้เร็วยิ่งขึ้น ถ้าผนึกกำลังร่วมกันทุกหมู่บ้านชุมชนรักษาศีล 5 แล้ว โดยมีเป้าหมายร่วมกัน 5 ประการ ประการแรก จังหวัดเชียงใหม่ ไม่มีกการเบียดเบียนกันไม่มีใครตีกับใคร สองความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินก็ดีขึ้น สามคดีหย่าร้างไม่มี ไม่มีใครมีกิ๊ก สี่การหลอกลวง ต้มตุ๋นก็ไม่มี และห้า เชียงใหม่จะเป็นจังหวัดสีขาว ไม่มีปัญหาเรื่องยาเสพติด การดื่มกินของมึนเมาต่าง ๆ สมกับเป็นเชียงใหม่ถิ่นไทยงามอย่างแท้จริง เพราะคนมีศีลมีธรรม ซึ่งการที่คนจะมีศีลมีธรรมนั้น ดูได้ 3 อย่าง คือ หนึ่งมีความเป็นปกติ ศีลก็คือความปกติ สองเย็น ใจเย็นเป็นคนมีเหตุผล สามหนักแน่น มั่นคงเพราะปฏิบัติดี ปฏิบัติถูก ดังเช่นครูบาศรีวิชัย แม้จะต้องอธิกรณ์หลายครั้งท่านหนักปกติ ใจเย็น และหนักแน่น ไม่โกรธแค้นอาฆาตใคร กล่าวไปแล้วเหมือนพี่น้องชาวอำเภอสายใต้ของเชียงใหม่ ใจเย็นพูดเหน่อใจเย็นแบบคนฮอด-ดอยเต่า เหตุวิวาทและคดีความต่างๆจึงไม่ค่อยมี ในตอนท้าย พระมหาสง่า ธีรสํวโร เทศน์ว่าเรื่องที่คนไทยควรภูมิใจ แต่ไม่ได้คิดกันก็คือ เรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงคุณอันประเสริฐ เรามีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงงานหลายพันโครงการ เพื่อให้พวกเราเหล่าพสกนิกร ประชาชนอยู่ดีมีสุข แม้จะมีบางคนที่ยังนินทาพระองค์ก็ตาม พระองค์ยังมุ่งมั้นทำคุณความดีอย่างมิย่อท้อ มีคนจีนถึงบอกว่า บ้านเมืองเขานับถือเทพศักดิ์สิทธิ์ คือเจ้าแม่กวนอิม แต่ท่านไม่ได้มีชีวิต คนไทยโชคดีมีพระโพธิสัตว์ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระโพธิสัตว์ที่มีชีวิตที่คอยห่วงใยช่วยเหลือประชาชนมายาวนาน. บรรยาย โดย บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงษ์ ภาพโดย โดย ศรีมูล แสนเมืองมา ขอบคุณ ภาพและข่าว จาก fb:พระมหาสง่า ไชยวงค์
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น